โพสโดย
บีม ม.
achiraya290845@gmail.com
|
ในช่วงชีวิตของคนที่รักการเดินทาง อะไรจะมีความสุขไปกว่าการได้ไปเยือนสถานที่แปลกใหม่ที่มีความสวยงามและมีเสน่ห์ดึงดูด ได้สัมผัสกับวัฒนธรรมที่หลากหลาย รวมถึงรสชาติอาหารของแต่ละท้องถิ่น แค่คิดก็อดที่จะยิ้มตามไม่ได้ และวันนี้เราขอเอาใจคนที่รักการเดินทางด้วย 50 เมืองน่าเที่ยวทั่วโลกที่ควรไปเยือนสักครั้งมาแนะนำกัน รับรองว่าแต่ละที่นั้นงดงามจับใจ ว่าแต่จะมีที่ไหนบ้าง...มาดูกันเลยค่ะ
1. เวนิส, ประเทศอิตาลี (Venice, Italy)
เวนิสคือเมืองอันดับต้น ๆ ของคู่รักนักเดินทางที่ใฝ่ฝันอยากจะมาล่องเรือในคลองสีฟ้าใส พร้อมชมสถาปัตยกรรมและบ้านเรือนของผู้คนริมน้ำในเวนิส ถือเป็นสวรรค์บนดินของทุกคนจริง ๆ
2. เซบียา, ประเทศสเปน (Seville, Spain)
ดื่มด่ำไปกับปราสาทที่ได้รับอิทธิพลจากสถาปัตยกรรมแขกมัวร์ พร้อมชิมอาหารยอดฮิตอย่าง "ทาปาส" เดินเลาะเลียบเพลิน ๆ ไปกับถนนที่ทอดยาวแค่นี้ก็ฟินสุด ๆ แล้ว
3. นิวยอร์ก ซิตี้, สหรัฐอเมริกา (New York City, USA)
ภาพจาก Songquan Deng / shutterstock.com
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมใคร ๆ ก็อยากมาเยือนมหานครของโลกอย่างนิวยอร์ก ที่ซึ่งคุณจะรู้สึกราวกับเวลาเดินผ่านไปเร็วเหลือเกิน เพราะนิวยอร์กมีสถานที่มากมายให้คุณได้ท่องเที่ยวอย่างไม่รู้จบ
4. ลาซา, ประเทศจีน (Lhasa, China)
เมืองลาซา เมืองหลวงของเขตปกครองตนเองทิเบตแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ถือเป็นศูนย์กลางด้านพระพุทธศาสนาของทิเบต ที่ซึ่งคุณจะได้สัมผัสกับมนตร์ขลังของสถาปัตยกรรมอันสวยงามบนยอดเขา ปลดปล่อยความคิดให้จิตใจได้พักสงบอย่างแท้จริง
5. ริโอ เดอ จาเนโร, ประเทศบราซิล (Rio de Janeiro, Brazil)

ภาพจาก Mark Schwettmann / shutterstock.com
ริโอ เดอ จาเนโร โด่งดังเรื่องเทศกาลและคาร์นิวัล ซึ่งถือเป็นสีสันที่ทำให้บราซิลเป็นประเทศที่คึกคักอยู่เสมอ รวมทั้งนักท่องเที่ยวทั่วโลกที่อยากไปสัมผัสกับวัฒนธรรมสไตล์แซมบ้าสักครั้ง
6. กรุงลอนดอน, ประเทศอังกฤษ (London, England)
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเมืองหลวงของอังกฤษอย่างกรุงลอนดอน เป็นที่ซึ่งนักท่องเที่ยวอยากจะมาเยือนสักครั้ง ได้ถ่ายรูปกับสถานที่สำคัญอย่างหอนาฬิกาบิ๊กเบน, Buckingham Palace หรือชมวิวจากลอนดอน อายส์ เรียกว่าเก๋ไม่หยอกเลยนะ
7. มาร์ราคิช, ประเทศโมร็อกโก (Marrakech, Morocco)
เป็นประสบการณ์ที่คุณจะไม่มีวันลืมแน่นอน หากได้มาเยือนมาร์ราคิชท่องไปยังเมืองที่มีเส้นทางวกวนเฉกเช่นเขาวงกต พร้อมหลงใหลไปกับสถาปัตยกรรมข้างทาง และอย่าลืมที่จะลิ้มรสอาหารท้องถิ่นที่มีรสชาติเป็นเอกลักษณ์
8. นครเปตรา, ประเทศจอร์แดน (Petra, Jordan)
นครเปตรา ถือเป็นเมืองแห่งโบราณสถานของโลกเลยก็ว่าได้ โดยคุณจะได้พบกับอาคารที่แกะสลักด้วยหิน ที่ตั้งตระหง่านอยู่ระหว่างทะเลสาบเดดซีกับทะเลอัคบา ใครที่ชอบการท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ห้ามพลาดเลย
9. กรุงโรม, ประเทศอิตาลี (Rome, Italy)
เรียกว่าไม่มีเบื่อเลยหากได้ไปเยือนกรุงโรม ประเทศอิตาลี ปล่อยใจให้เพลิดเพลินไปกับความงดงามของโบราณสถานที่แม้จะหลงเหลือให้เห็นเพียงแค่ซากปรักหักพัง แต่นี่แหละคือเสน่ห์ที่แท้จริงของกรุงโรมที่หาดูไม่ได้ในที่อื่น
10. พาราณสี, ประเทศอินเดีย (Varanasi, India)
เมืองแห่งความศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวพุทธอยากมาเยือนสักครั้ง ปล่อยใจให้สงบนิ่งไปกับคำสอนของพระพุทธเจ้า และชื่นชมความงามเมื่อพระอาทิตย์ขึ้นที่ริมแม่น้ำคงคา แค่นี้ก็อิ่มใจแล้ว
11. ฟลอเรนซ์, ประเทศอิตาลี (Florence, Italy)
ฟลอเรนซ์ คืออีกหนึ่งเมืองที่ควรไปเยือนสักครั้งหากมาเที่ยวอิตาลี แวะเวียนมาชมกับสถานที่ซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นดินแดนแห่งศิลปะของโลก พร้อมทั้งชมสิ่งปลูกสร้างที่มีสถาปัตยกรรมในยุคศิลปะฟื้นฟูของอิตาลี
12. ฮาวานา, ประเทศคิวบา (Havana, Cuba)
สำรวจถนนด้วยสองเท้าที่ค่อย ๆ ก้าวไปบนเส้นทางอันแก่ของเมืองฮาวานา เพ่งดูสถาปัตยกรรมในยุคก่อนการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของคิวบา พร้อมสูดกลิ่นอายของเครื่องปรุงชั้นดีที่จะติดตราตรึงใจคุณไปตราบนานเท่านาน
13. เกียวโต, ประเทศญี่ปุ่น (Kyoto, Japan)
เมืองที่ยังคงมีความงดงามทุกกาลเวลา ทั้งแหล่งธรรมชาติและปราสาทอันเก่าแก่ รวมทั้งวิถีการดื่มชาแบบญี่ปุ่นแท้ ๆ ที่ห้ามพลาด เรียกว่าหากมาญี่ปุ่นแต่ไม่ได้มาเยือนเกียวโตก็เหมือนมาไม่ถึงนะคะ
14. กรุงเยรูซาเล็ม, ประเทศอิสราเอล (Jerusalem, Israel)
กรุงเยรูซาเล็ม เป็นเมืองที่มีเรื่องราวทางประวัติศาสตร์อันยาวนานและน่าสนใจ โดยเฉพาะชาวคริสต์ที่อยากมาสัมผัสกับประสบการณ์ในเมืองแห่งความเชื่อสักครั้ง พร้อมชมโบราณสถานอันเก่าแก่ที่น่าสนใจมากมาย
15. ปารีส, ประเทศฝรั่งเศส (Paris, France)
เมืองแห่งความสว่างที่คอยส่องประกายความหวังใจให้แก่ผู้มาเยือนเสมอ อีกทั้งบรรยากาศสุดโรแมนติกที่บรรดาคู่รักต่างนิยมมากระชับความสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้นขึ้น รวมทั้งชมความงามของหอไอเฟลที่เป็นเสมือนแลนด์มาร์กของฝรั่งเศสเลย
16. ปักกิ่ง, ประเทศจีน (Beijing, China)
ดินแดนแห่งประวัติศาสตร์ของจีนที่บอกเล่าเรื่องราวต่าง ๆ ผ่านสถานที่สำคัญหลายแห่ง เช่น จัตุรัสเทียนอันเหมิน หรือจะเป็นพระราชวังต้องห้าม ที่ล้วนมีเรื่องราวและความเป็นมาอันน่าทึ่ง
17. ลาลิเบลา, ประเทศเอธิโอเปีย (Lalibela, Ethiopia)
ลาลิเบลา เป็นหนึ่งในเมืองศักดิ์สิทธิ์ของเอธิโอเปียที่มีชื่อเสียงในเรื่องโบราณวัตถุอันสำคัญและเก่าแก่ นอกจากนี้ยังมีโบสถ์ซึ่งมีรูปร่างคล้ายเสาหินที่เต็มไปด้วยมนตร์ขลังและหาดูไม่ได้ในที่อื่นแน่นอน
18. กรานาดา, ประเทศสเปน (Granada, Spain)
บนถนนสายเล็ก ๆ ในเมืองกรานาดา ทำให้นักท่องเที่ยวเพลิดเพลินไปความงดงามของพระราชวังอาลัมบรา (Alhambra) และเรียนรู้วัฒนธรรมที่หลากหลายของผู้คนต่างศาสนา ที่แม้จะดำเนินวิถีชีวิตคนละอย่าง แต่ก็อยู่ร่วมกันอย่างสงบ
19. เอเธนส์, ประเทศกรีซ (Athens, Greece)
ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ยุคกี่สมัย วิหารพาร์เธนอน (Parthenon) ยังคงเป็นสถานที่ซึ่งน่าสนใจอยู่เสมอ ด้วยความเก่าแก่ของสถาปัตยกรรมบวกกับเรื่องราวความเป็นมาอันน่าสนใจ ทำให้เอเธนส์ยังคงเป็นหนึ่งในเมืองที่ควรไปเยือนสักครั้ง
20. พุกาม, ประเทศพม่า (Bagan, Myanmar)
ดินแดนแห่งเจดีย์สี่พันองค์อย่างพุกาม ยังคงดึงดูดนักท่องเที่ยวทั่วโลกที่หลงใหลในโบราณสถานอันศักดิ์สิทธิ์ได้อย่างไม่ขาดสาย เดินเพลิน ๆ จากเช้าถึงเย็น ชมทะเลเจดีย์มากมายได้แบบไม่มีเบื่อเลย
21. กาฐมาณฑุ, ประเทศเนปาล (Kathmandu, Nepal)
กาฐมาณฑุ ตั้งอยู่บริเวณเชิงเขาของเทือกเขาหิมาลัย เป็นอีกหนึ่งเมืองที่มีความเรียบง่ายน่าหลงใหล และมีสถานที่ท่องเที่ยวอย่าง สถูปสวะยัมภูนาถ (Swayambhunath) ที่ผสมผสานระหว่างศาสนาพุทธและฮินดูเข้าด้วยกันอย่างลงตัว
22. นครรัฐวาติกัน (Vatican City)
นครรัฐวาติกัน ประเทศที่มีขนาดเล็กที่สุดในโลก โดยแยกตัวจากอิตาลีมาปกครองตนเองเมื่อปี ค.ศ. 1929 และแม้จะมีขนาดเล็ก แต่ทุกตารางนิ้วนั้นเต็มไปด้วยสถานที่สำคัญอย่างพิพิธภัณฑ์และมหาวิหาร ที่แสดงถึงความรุ่งเรืองทางด้านศิลปะและสถาปัตยกรรมของนครรัฐวาติกันนั่นเอง
23. ลิสบอน, ประเทศโปรตุเกส (Lisbon, Portugal)
ดินแดนที่เต็มไปด้วยเสน่ห์อย่างลิสบอน ทำให้ผู้มาเยือนหลงใหลได้ไม่ยาก ด้วยทัศนียภาพรอบตัว ทั้งฟ้าสวย น้ำทะเลใส และอย่าพลาดที่จะแวะเวียนไปสัมผัสกับถนนที่มีสีสันสวยงามในย่าน Chiado และย่าน Alfama ค่ะ
24. โตเกียว, ประเทศญี่ปุ่น (Tokyo, Japan)
ว่ากันว่า "โตเกียว" คือเมืองที่ส่งตรงจากอนาคต เพราะทั้งเทคโนโลยีต่าง ๆ นั้นล้ำสมัยและถูกพัฒนาอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย ทั้งย่านช้อปปิ้ง ย่านของกิน รวมทั้งสถานที่สำคัญอย่างพระราชวังโตเกียวด้วย
25. อิสตันบูล, ประเทศตุรกี (Istanbul, Turkey)
ความพิเศษของอิสตันบูลคือเมืองที่เป็นเสมือนพรมแดนขั้นระหว่างทวีปยุโรปและทวีปเอเชีย ทำให้อิสตันบูลได้รับอิทธิพลหลาย ๆ ด้านของทั้งสองทวีป จึงนับเป็นอีกหนึ่งเมืองที่เหมาะแก่การเรียนรู้ความหลากหลายทางวัฒนธรรม
26. ฮอยอัน, ประเทศเวียดนาม (Hoi An, Vietnam)
ประเทศเพื่อนบ้านของไทยที่มีจุดน่าสนใจอยู่ที่เมืองฮอยอัน ดินแดนที่เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมที่ผสมผสานกันอย่างลงตัวของญี่ปุ่น เวียดนาม และยุโรป และความหลากหลายเช่นนี้เอง จึงเป็นเหตุผลที่คุณควรไปเห็นกับตาสักครั้ง รวมทั้งอย่าพลาดที่ลิ้มรสอาหารเวียดนามด้วยนะคะ
27. อัมเตอร์ดัม, ประเทศเนเธอร์แลนด์ (Amsterdam, Netherlands)
อัมเตอร์ดัม คือเมืองที่ขึ้นชื่อว่าประชากรมีคุณภาพชีวิตที่ดีที่สุดอันดับต้น ๆ ของโลก อีกทั้งความเป็นอยู่ สิ่งแวดล้อมและผู้คนที่เป็นมิตรก็เป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้อัมเตอร์ดัมน่าอยู่ นอกจากนี้ยังมีย่านท่องเที่ยวสำคัญ ได้แก่ ย่าน Red Light และพิพิธภัณฑ์ Van Gogh Museum
28. ลักซอร์, ประเทศอียิปต์ (Luxor, Egypt)
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่หลงใหลการท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ เมืองลักซอร์ ในประเทศอียิปต์ จะไม่ทำให้คุณผิดหวังแน่นอน เพราะคุณจะได้พบกับโบราณสถานที่สำคัญมากมาย พร้อมชมวิวสวย ๆ จากแม่น้ำไนล์ที่ไหลผ่านอย่างช้า ๆ
29. เบอร์ลิน, ประเทศเยอรมัน (Berlin, Germany)
หลังจากกำแพงเบอร์ลินถูกทำลายลงไป ทำให้ชาวเยอรมันทั้งสองฟากฝั่งมีเสรีภาพที่จะสร้างสรรค์สิ่งต่าง ๆ ได้มากขึ้น รวมทั้งทำให้เบอร์ลินกลับกลายเป็นเมืองที่มีชีวิตชีวาอีกครั้ง นับว่าน่าสนใจหากคุณชื่นชอบสถานที่ซึ่งมีทิวทัศน์สวยงาม ร |